งานวิจัย ปัจจัยที่มีผลต่อต้นทุนการผลิตน้้านมของฟาร์มโคนมในจังหวัดสกลนคร


ปัจจัยที่มีผลต่อต้นทุนการผลิตน้้านมของฟาร์มโคนมในจังหวัดสกลนคร

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลทั่วไปของเกษตรกร สภาพการเลี้ยงโคนมของเกษตรกร ต้นทุนผลตอบแทนการผลิตน้ำนม และปัจจัยที่มีผลต่อต้นทุนการผลิตน้ำนมของฟาร์มโคนมในจังหวัดสกลนคร ประชากรในการศึกษา คือ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่เป็นสมาชิกสหกรณ์โคนมภูพานสกลนคร จำกัด และเป็นสมาชิกสหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด เก็บรวบรวมข้อมูลการผลิตในรอบปี 2559 (มกราคม – ธันวาคม 2559) โดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (structured interview) สัมภาษณ์เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในจังหวัดสกลนคร หาขนาดตัวอย่างโดยใช้สูตรของของ ทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 110 ครัวเรือน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบอาศัยความน่าจะเป็น (probability sampling) ด้วยวิธีการสุ่มแบบง่าย (systematic random sampling) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาในการอธิบายข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (mean) ค่าสูงสุด (max) ค่าต่ำสุด (min) ความถี่ (frequency) และร้อยละ (percentage) ทดสอบความแตกต่างระหว่างกลุ่มโดยใช้สถิติที่อิสระ (independent t-test) และหาปัจจัยที่มีผลต่อต้นทุนการผลิตน้ำนมของฟาร์ม โคนมในจังหวัดสกลนคร โดยการวิเคราะห์ความถดถอยโลจิสติคแบบสองกลุ่ม (binary logistic regression analysis) ผลการศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่เกษตรกรเจ้าของฟาร์มเป็นเพศชาย อายุเฉลี่ย 49 ปี การศึกษาระดับประถมศึกษา มีประสบการณ์ในการเลี้ยงโคนมเฉลี่ย 17 ปี เกษตรกรนิยมเลี้ยงโคนมพันธุ์ไทยฟรีเชียน (Thai Friesian) เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่ให้น้ำนมปริมาณสูง มีรูปการเลี้ยงแบบปล่อยในคอกและตัดหญ้าให้กิน ใช้แรงงานในครัวเรือนเป็นหลัก และนิยมใช้เครื่องรีดแบบ 2 ชุดหัวรีด ด้านอาหารโคนม พบว่าเกษตรกรนิยมให้อาหารหยาบเป็นหญ้าสดและฟางข้าว ให้อาหารข้นสำเร็จรูป และให้แร่ธาตุชนิดก้อน ขนาดฟาร์มโคนม พบว่า ร้อยละ 71.82 เป็นฟาร์มโคนมขนาดเล็ก มีจำนวนแม่โคเฉลี่ย 13-16 ตัวต่อครัวเรือน ต้นทุนและผลตอบแทนจากการผลิตน้ำนม พบว่า ต้นทุนส่วนใหญ่มาจากค่าอาหาร ร้อยละ 50-60 ของต้นทุนทั้งหมด รองลงมา คือ ค่าแรงงาน และค่าเสื่อมราคาแม่พันธุ์โคนม ตามลำดับ ทดสอบความแตกต่างทางสถิติ พบว่า เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์โคนมภูพานสกลนคร จำกัด กับกลุ่มเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด มีต้นทุนการผลิตน้ำนมและผลตอบแทนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด มีต้นทุนและผลตอบแทนที่ดีกว่าเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์โคนมภูพานสกลนคร จำกัด และทดสอบความแตกต่างของขนาดฟาร์มโคนม พบว่า ขนาดฟาร์มแตกต่างกัน มีต้นทุนและผลตอบแทนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.01) คือ ฟาร์มโคนมขนาดกลางมีต้นทุนและผลตอบแทนที่ดีกว่าฟาร์มโคนมขนาดเล็ก ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อต้นทุนการผลิตน้ำนมของฟาร์มโคนมในจังหวัดสกลนคร พบว่ามี 5 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ ได้แก่ 1) ระดับการศึกษา (P<0.05) หากเกษตรกรได้รับการศึกษาในระดับสูงกว่าประถมศึกษา มีโอกาสที่จะผลิตน้ำนมดิบให้มีต้นทุนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม มากกว่าเกษตรกรที่ได้รับการศึกษาในระดับประถมศึกษา 4.28 เท่า 2) ขนาดฟาร์ม (P<0.01) ฟาร์มขนาดกลางมีโอกาสที่จะมีต้นทุนการผลิตน้ำนมต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มมากกว่าฟาร์มขนาดเล็ก 116.61 เท่า 3) จำนวนแรงงานในฟาร์ม (P<0.05) หากเกษตรกรใช้แรงงานในฟาร์มเพิ่มขึ้น 1 คน มีโอกาสที่จะมีต้นทุนการผลิตน้ำนมต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มลดลง 0.37 เท่า 4) ปริมาณอาหารข้นที่ให้แม่โค (P<0.05) หากเกษตรกรให้อาหารข้นเพิ่มขึ้น 1 กิโลกรัมต่อตัวต่อวัน จะทำให้เกษตรกรมีโอกาสที่จะมีต้นทุนการผลิตน้ำนมต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ลดลง 0.85 เท่า 5) ความรู้เกี่ยวกับอาหารหยาบ (P<0.05) หากเกษตรกรที่มีความรู้เกี่ยวกับอาหารหยาบในระดับมากถึงมากที่สุด มีโอกาสที่จะมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม มากกว่าเกษตรกรที่มีความรู้เกี่ยวกับอาหารหยาบในระดับน้อยที่สุดถึงปานกลาง 2.89 เท่า

ทุนวิจัยงบแผ่นดิน
เทคโนโลยีการเกษตร
เทคโนโลยีการเกษตร
สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา
โคขุน
โคนม, ต้นทุนผลิตน้ำนม, ผลตอบแทนจากการผลิตน้ำนม, ปัจจัยที่มีผลต่อต้นทุนการผลิตน้ำนม

เจ้าของผลงาน
ภรภัทร ไชยสมบัติ
เรืองฤทธิ์ หาญมนตรี, นราวุธ ระพันธ์คำ, ชนกนันท์ ศรีลาพัฒน์

เอกสาร

บรรณานุกรม APA
ภรภัทร ไชยสมบัติ ,เรืองฤทธิ์ หาญมนตรี, นราวุธ ระพันธ์คำ เเละ ชนกนันท์ ศรีลาพัฒน์ . (2561). ปัจจัยที่มีผลต่อต้นทุนการผลิตน้้านมของฟาร์มโคนมในจังหวัดสกลนคร. สกลนคร : มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.