การเพิ่มผลผลิตและลดปริมาณไนเตรตในผักขมด้วยมูลจิ้งหรีด ที่ใช้ร่วมกับสารสกัดจากเมล็ดสะเดา
การศึกษานี้มีวัตถุเพื่อประเมินอิทธิพลของอัตราการใช้มูลจิ้งหรีดที่ใช้ร่วมกับสารสกัดจากเมล็ดสะเดาต่อสถานะของไนโตรเจนในดินและพืช และการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืช วัสดุปรับปรุงดินที่ใช้ในการศึกษามี 5 ชนิด ประกอบด้วย ไม่ใส่สารปรับปรุงดิน ปุ๋ยเคมี และมูลจิ้งหรีดอัตรา 0.5, 1 และ 2 ตัน/ไร่ ที่ใช้ร่วมกับสารสกัดจากเมล็ดสะเดา โดยใช้ผักโขม (Amaranthus tricolor) เป็นพืชทดสอบเพราะเป็นผักที่มีการบริโภคมากและมีการสะสมไนเตรตสูง พบว่ามูลจิ้งหรีดทุกอัตราทั้งที่ไม่ใช้ร่วมและร่วมกับสารสกัดสะเดาทำให้ผักโขมมีผลผลิตน้ำหนักสดมากกว่าการใช้ปุ๋ยเคมี การเพิ่มอัตรามูลจิ้งหรีดจาก 0.5 เป็น 1 ตัน/ไร่ ทำให้ผลผลิตของผักโขมเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเพิ่มมูลจิ้งหรีดเป็น 2 ตัน/ไร่ กลับทำให้ผลผลิตของผักโขมลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับอัตรามูลจิ้งหรีดที่ต่ำกว่า อัตราที่เหมาะสมของมูลจิ้งหรีดที่แนะนำสำหรับการปลูกผักโขมคือ 1 ตัน/ไร่ การยับยั้งไนตริฟิเคชั่นในดินและการลดลงของไนเตรตในผักโขมพบแต่เพียงในดินที่ใช้ปุ๋ยเคมีเท่านั้น การเสื่อมสภาพโดยกระบวนการไฮโดรไลซีสและโดยจุลินทรีย์ของ azadirachtin ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์สำคัญที่ทำหน้าที่เป็นตัวยับยั้งไนตริฟิเคชั่นอาจเป็นสาเหตุของการไร้ประสิทธิภาพของสารสกัดจากเมล็ดสะเดาเมื่อใช้ในดินที่มีมูลจิ้งหรีด